วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

คัดค้าน บริษัทสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทำลายแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก อ.มวกเหล็ก

ชาวอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี รายนี้บอกอีกว่า ทีพีไอ ยังขอสัมปทานเหมืองปูนเพิ่มเติมด้วยการบุกรุก ตัดต้นไม้ทำลายธรรมชาติขุดเจาะภูเขา ทำลายระบบนิเวศน์ ห่วงโซ่อาหารสัตว์ป่า
"ทีพีไอ ได้ประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ประชาชนในพื่นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบ สูญเสียทรัพยากรป่าไม้ให้นายทุน ทีพีไอ ขาดความรับผิดชอบ ขาดหลักธรรมาภิบาล ยัดเยียความเดือดร้อนให้กับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียและเป็นผู้เดือดร้อนจากโรงงาน ทีพีไป ขอคัดค้านการจัดทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน (ถ่านหิน) ขนาด 150 เมกกะวัตต์ และสัมปทานเหมืองปูนที่ทำลายธรรมชาติ "
แหล่งข้อมูลจาก http://www.nationtv.tv/main/content/378632439/


ชาวเกษตรกร พร้อมชาวบ้านมวกเหล็กร่วมใจกันติดป้ายคัดค้าน การตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินเหมืองปูน หวั่นเสียชื่อแหล่งท่องเที่ยวอากาศโอโซน 7 ของโลก

สระบุรี กลุ่มชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพระราชทาน พร้อมชาวบ้านอำเภอมวกเหล็กสระบุรีเจ้าของกิจการห้างร้านและรีสรอทร์ ร่วมใจกันติดป้ายคัดค้าน การตั้งโรงไฟฟ้าถ่านนหินเหมืองปูน
  ----- ส่วนที่จังหวัดสระบุรี จากกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพระราชทานและชาวบ้านอำเภอมวกเหล็ก สระบุรี ได้มีการรวมตัวกันเพื่อคัดค้านในโคลงการที่ทางบริษัท พีทีไอ จำกัด ได้ขอก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่บริเวณบ้านซับบอน อ.แก่งคอย จ. สระบุรี  โดยจะใช้ถ่านหินจำนวน 80เปอร์เซ็น ใช้ขยะ 20 เปอร์เซ็น เป็นเชื้อเพลิงในการผลิต  ซึ่งชาวเกษตรกรและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ในระยะไม่เกิน 30 กม. รับผลกระทบ ซึ่งกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและชาวบ้านอำเภอมวกเหล็กหวั่นได้รับผลกระทบ จากสารพิษในกระบวนการผลิตที่ออกจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะ ให้แก่ร่างรับผลกระทบหลายด้าน และผลกระทบตามอากาศฝุ่นละอองให้กับเกษตรกรผุ้เลี้ยงโคนมอันเป็นอาชีพในโคลงการพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวรัชกาลที่9 ซึ่งตัวแม่วัวจะต้องกินหญ้าและน้ำที่อออยุ่บนพื้นดินอาจเป็นผลกระทบน้ำนมวัว  จนได้มีการยื่นหนังสือแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปพิจารณาที่ผ่านมา

แหล่งข้อมูลจาก http://www.news-lifestyle.com/contents/304787

ร่วมกันรณรงค์ต่อต้าน.....คนมวกเหล็กไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน และ เหมืองหินปูน